ใบลาออกจากความทุกข์

ทำอย่างไร ให้อ่อนเยาว์เสมอ

ยามหัศจรรย์ สำหรับคุณ

ธรรมชาติบำบัด น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุก ๆ คน

"ยามหัศจรรย์ สำหรับคุณ "

สรรพคุณของพืชผักแต่ละชนิดว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไรไว้ในหนังสือชื่อ "

ยามหัศจรรย์ สำหรับคุณ "

1. ปวดหัว

กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลามีสรรพคุณ

ป้องกันการปวดหัว กินพร้อมๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง

2. แพ้ละออง

เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว

3. โรคหัวใจ

ดื่มชาเขียวเป็นประจำสารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด

4. โรคนอนไม่หลับ

ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี

5.โรคหืดหอบ

กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง

6.โรคไขข้ออักเสบ

กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ)

ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง )

มันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง

7. ท้องผูก ท้องอืด

ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก

และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป

8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ

ให้ กินน้ำคั้นจากลูก แคนเบอรี (ไม้เมืองหนาว) กรดเข้มข้นในลูกไม้ ฆ่าแบคทีเรียได้

9. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย

ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียดวิตกกังวล และความคิดสับสนได้

10.โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย

แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้

11. ความจำเสื่อม

แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครง หรือหอยอื่นๆ ซึ่งในเนื้อหอยมีสารสังกะสี

ช่วยบำรุงสมองได้ดี

12. เป็นหวัด

กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่งกระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย

13. ไอ จาม

กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง

14. มะเร็งเต้านม

กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลี จะช่วยป้องกันได้ดี โดยเฉพาะรำข้าว

กะหล่ำปลีช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม

ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต

15. มะเร็งปอด

กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเออยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน

16. แผลในกระเพาะอาหาร

กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร

และลำไส้เล็กหายขาดได้

17. โรคท้องร่วง

กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง

18. เส้นเลือดตีบ

กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี "โมโรอันแซตเทอเรต"

ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว " คลอเลสเตอรอล " ได้

19. ความดันโลหิตสูง

กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่าย พืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง

20.น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล

กินผักบร็อกโรลี่ และ ถั่วลิสง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้

พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง

คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่น อันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของเราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง

ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษ ของเราท่าน ได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป

ลดน้ำหนัก อย่างปลอดภัย

ผลิตภัณฑ์ : มัลติ ไฟเบอร์

คุณประโยชน์ : ผลิตภัณฑ์ ทรู มัลติ ไฟเบอร์ ประกอบด้วย สารอาหารที่มีประโยชน์ดังนี้

         *อินนูลิน จัดเป็นเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ เป็นอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรท โมเลกุลใหญ่ชนิดโอลิโกแซคคาไรด์ ซึ่งไม่สามารถถูกย่อยและดูดซึมผ่านระบบทางเดินอาหารได้ สกัดจากส่วนของหัวใต้ดินของต้นชิโครี่ มีคุณสมบัติสำคัญ 2 ส่วน ได้แก่ คุณสมบัติความเป็นเส้นใยชนิดละลายน้ำได้ เมื่อรับประทานก่อนอาหาร มีผลรบกวนการย่อยและดูดซึม  ไขมันเข้าสู่ร่างกายและยังดูดซับน้ำได้ดี ซึ่งทั้งสองขบวนการมีผลให้สามารถลดและควบคุมระดับไขมันโคเลสเตอรอลได้ และคุณสมบัติที่เป็นพรีไบโอติก ( Pre-biotic) ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดดีภายในลำไส้ ส่งผลช่วย ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอล และช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน


       * เส้นใยฟีนูกรีก ประกอบด้วยเส้นใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำได้และไม่ละลายน้ำ ด้วยโครงสร้างที่แตกต่างจากพืชในกลุ่มกัม ( Gum) ทั่วไปทำให้มีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดี และจับกับโมเลกุลต่างๆ ได้มากกว่า จึงมีผลช่วยลดระดับน้ำตาลใน กระแสเลือดได้ จึงส่งผลดีในผู้ป่วยเบาหวาน

       *ด้วยคุณสมบัติที่มีเส้นใยสองชนิดจึงส่งผลลดค่า Glycemic Index ของมื้ออาหารที่รับประทาน ลดระดับไขมัน น้ำตาล และ แคลอรี่ที่ร่างกายจะได้รับ จึงเหมาะสำหรับใช้กับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ผู้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง

       *สารสกัดจากจมูกถั่วเหลืองและโปรตีนจากถั่วเหลือง ให้สารสำคัญคือ ไอโซฟลาโวน ( Isoflavone) โปรตีนและแร่ธาตุสำคัญ อีกหลายชนิด โดยไอโซฟลาโวนจะช่วยลดอาการผิดปกติในวัยหมดประจำเดือน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ เช่นเดียวกับการรับประทานฮอร์โมนทดแทนโดยปราศจากผลข้างเคียงในระยะยาว


       *สารอื่นๆ ได้แก่ เรดเบอรี่ ไบโอติน วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผนังหลอดเลือดได้ดีในผู้ป่วยเบาหวาน  อีกทั้งยังช่วยบำรุงสายตาและเส้นผม

จุดเด่นที่แตกต่าง :

     เส้นใยอาหารในผลิตภัณฑ์ ทรู มัลติ ไฟเบอร์ ทั้งเส้นใยอินนูลินและฟีนูกรีก เป็นเส้นใยอาหารที่ผ่านขบวนการผลิตที่เฉพาะเจาะจง  มีการจดลิขสิทธิ์ภายใต้ชื่อการค้า Fruitafit และ FenuLife ตามลำดับ เช่นเดียวกับสารสกัดจมูกถั่วเหลือง SoyLife ซึ่งส่งผลให้แตกต่าง จากสารสกัดจากพืชชนิดเดียวกันทั่วไป ทั้งในแง่การดูดซึมไปใช้ภายในร่างกายและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีผลงานวิจัยรองรับ จึงให้ผล ที่ดีต่อสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและเห็นผล


     ด้วยสูตรของสารอาหารที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยอาหารทั้งสองชนิด โปรตีน ไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ตลอดจนแร่ธาตุที่จำเป็น ต่อร่างกาย ผลิตภัณฑ์ ทรู มัลติ ไฟเบอร์ นอกเหนือจากใช้เพื่อการป้องกันโรคต่างๆ แล้ว ยังเหมาะที่จะใช้ทดแทนมื้ออาหารได้ อย่างสมบูรณ์ โดยปราศจากการปรุงแต่ง รส สี กลิ่น และสารกันเสีย บรรจุแยกเป็นซอง สะดวกในการรับประทานและพกพาไป รับประทานนอกสถานที่

ผลิตภัณฑ์ : กาแฟ ทรู บราซิลเลียน


ส่วนประกอบที่สำคัญ :กาแฟสำเร็จรูป , น้ำตาลทรายแดง , ครีมเทียม , โสมสกัด , เห็ดหลินจือสกัด

คุณประโยชน์ : ประโยชน์ของกาแฟจากงานวิจัยมีดังนี้ :

    *ช่วยควบคุมอาการหอบหืด

    *ดื่มกาแฟอย่างน้อย 2 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 25 %

    *ช่วยชะลอและลดการเกิดนิ่ว

    *ช่วยระงับอาการปวดศีรษะได้ในบางกรณี

    *ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตับแข็ง

    *สารประกอบ Trigonelline ที่มีในกาแฟ มีผลช่วยต้านการอักเสบและลดหินปูนในช่องปากได้

การศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 126,000 ราย พบว่าการดื่มกาแฟ 1-3 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานได้ 10 % แต่หากดื่มมากกว่า 6 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานในเพศหญิงได้ 30 % และในเพศชาย 54 %

ประโยชน์ของเห็ดหลินจือ :

เห็ดหลินจือมีคุณสมบัติเป็นยามากว่า 4000 ปี โดยปรากฏในตำรายาสมุนไพรโบราณของจีนว่า เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง คืนความหนุ่มสาว ส่วนในปัจจุบัน เห็ดหลินจือถูกจัดอยู่ในตำรับยาของประเทศสหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในยุโรป เป็นยา ทางเลือก เพื่อรักษามะเร็ง ลดความดันโลหิตสูง ลดไขมัน เช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น โดยกระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้ เป็นยา ทางเลือกเพื่อรักษาโรคมะเร็ง และยังให้ผลดีต่อระบบเลือด การกำจัดสารพิษ ตับ ไต และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย

ประโยชน์ของโสม :

โสมมีประวัติความเป็นมากว่า 5000 ปี แต่เริ่มนำมาใช้ในทางยาในช่วง 2000 ปี ที่ผ่านมา มีประโยชน์มากมายได้แก่

    *ช่วยเพิ่มกำลังวังชาให้กับร่างกายและจิตใจ

    *เป็นส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้กับร่างกาย

    *ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง

    *ช่วยเสริมสร้างการทำงานของปอดและทางเดินหายใจ

    *ป้องกันการไอ วัณโรคและหอบหืด

    *ช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะแอลกอฮอล์

    *ช่วยต่อต้านมะเร็งและชะลอความแก่ เป็นต้น

จุดเด่นที่แตกต่าง :

    *กาแฟสำเร็จรูป ทรู บราซิลเลี่ยน คอฟฟี่ ผลิตจากกาแฟอาราบิก้าแท้ สายพันธุ์ ทิปปิก้าจากประเทศบราซิล ที่มีคุณสมบัติให้รสชาติที่กลมกล่อมในขณะที่มีปริมาณคาเฟอีนต่ำ

    *เห็ดหลินจือและโสมที่มีคุณภาพสูง อุดมด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ปราศจากสารเคมี

    *เติมแต่งรสชาติด้วยครีมเทียมซึ่งผลิตจากถั่วเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งแตกต่างจากกาแฟสำเร็จรูปที่วางขายทั่วไปที่มักใช้ครีมเทียมซึ่งผลิตจากน้ำมันปาล์ม

    *รสหวานจากน้ำตาลทรายแดง ซึ่งปราศจากสารฟอกสี และยังให้รสชาติที่แตกต่าง

T&C Herbal Infusion ®

Detox from the nature
saving per box 30
Price: 812 Baht.
discount 20-25% wiht Advisor ID or Member code.


ผลิตภัณฑ์ : T&C Infusion tea


ประโยชน์ : ชา T&C มีสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้
  
     *มาร์ชแมโลว์ เป็นสมุนไพรที่ใช้เพื่อการดูแลสุขภาพตั้งแต่ในสมัยกรีก ซึ่งช่วยบรรเทาอาการต่างๆ มากมายได้แก่ โรคหอบหืด ภูมิแพ้ โรคหวัด เจ็บคอ อาการไอเรื้อรัง แผลในกระเพาะอาหาร อาหารไม่ย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคผนังลำไส้อักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญต่อการเกิดการอักเสบที่เรื้อรังและก่อให้เกิดโรคมะเร็งซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของมาร์ชแมโลว์คือเมื่อละลายน้ำ จะให้สารเมือก ซึ่งจะจับตัวกับผนังลำไส้ช่วยดูดซับของเสีย แล้วขับออกจากร่างกายได้ ซึ่งเป็นการวิจัยของนักวิจัยชาวเยอรมัน


     *เฟนเนล ในแง่ของการบำรุง Hildegard of Bingen นักเขียนตำราเกี่ยวกับสมุนไพรในช่วงศตวรรษที่ 12 ได้ยกให้เฟนเนล เป็นพืชที่ช่วยบำรุงสายตา สมอง การได้ยิน และหัวใจ นอกเหนือจากนี้เฟนเนลยังส่งผลดีต่อตับและตับอ่อน โดยให้ผลช่วยในการสลายนิ่วได้และบรรเทาปัญหาของระบบทางเดินอาหารที่ทำงานไม่ปกติ เฟนเนลในรูปของชาสมุนไพรได้รับการยอมรับว่า เป็นชาดีท็อกซ์ระบบตับและตับอ่อนมาตั้งแต่ในอดีต


    *เบิร์ช เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้ในทางฝาดสมาน และมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะและมีฤทธิ์ระบายอย่างอ่อน และช่วยลดอาการ อักเสบ อาการปวดได้ให้ผลดีในโรครูมาตอยด์ เก๊าต์ ข้ออักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต ลดอาการอักเสบติดเชื้อ ในระบบไต ระบบขับถ่ายปัสสาวะ

     *เรด คัฟเวอร์ มีประวัติการใช้ในทางการแพทย์อย่างยาวนานทั้งในประเทศจีนและรัสเซีย ใช้บรรเทาอาการไอ ช่วยให้แผลหายเร็ว และช่วยขับน้ำออกจากร่างกาย ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อโรคหัวใจ เบาหวาน บรรเทาอาการของ วัยหมดประจำเดือน และโรคต่อมลูกหมากโตได้ ในด้านการกำจัดสารพิษ เรดคัฟเวอร์มีส่วนช่วยกำจัดสารพิษจากเลือด


     *แดนดีลีออน มักใช้ในการดูแลความผิดปกติของการขับถ่ายปัสสาวะ ไตและตับ จึงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ระบบการ กำจัดของเสียของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

     *อูวา เออชี่ ให้ผลช่วยขับปัสสาวะและลดอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ลดอาการปวดจากนิ่วในไต มีผลช่วยลด ความเป็นกรดของปัสสาวะได้

     *ลิเคอร์ไรซ์ มีผลช่วยดูแลระบบทางเดินหายใจ อาการไอ เจ็บคอ คออักเสบ และหลอดลมอักเสบ ช่วยดูแลระบบทางเดิน อาหาร ด้วยการให้สารคล้ายเจลช่วยเคลือบผนังของระบบทางเดินอาหารช่วยลดการสัมผัสกับกรด ช่วยลดอาการวัยใกล้ หมดประจำเดือนและอาการก่อนมีประจำเดือน

     *แบล็คเคอแรนท์ ช่วยกำจัดสารพิษในเลือด ลดการอักเสบและทำให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรงยืดหยุ่นได้ดี

     *เป็บเปอร์มินท์ ช่วยบรรเทาอาการไอและคัดแน่นจมูก ช่วยป้องกันการหยุดทำงานของกล้ามเนื้อเรียบของระบบทางเดินอาหาร จึงช่วยลดอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหารได้ ตลอดจนอาการปวดประจำเดือนซึ่งเกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ เรียบที่มดลูกได้ มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และบรรเทาอาการปวด
  
 *เซนน่า มีฤทธิ์ช่วยระบายอย่างอ่อน

จุดเด่นที่แตกต่าง :

ด้วยสูตร T&C Infusion tea ที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยดูแลสุขภาพในองค์รวม เริ่มต้นตั้งแต่การดีท็อกซ์หรือช่วยกำจัด ของเสียเป็นพื้นฐาน และยังบำรุงดูแลทุกระบบของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยสมุนไพร 10 ชนิดที่มีคุณสมบัติที่ แตกต่างกันแต่ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมสุขภาพไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง รับประทานโดยการดื่มอุ่นๆ ก่อนนอนช่วยให้การดูแล สุขภาพเป็นเรื่องง่ายๆ และสัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพที่มีต่อระบบทางเดินหายใจได้ตั้งแต่แรกที่ได้กลิ่น การเลือกสรรสมุนไพร ที่มีงานวิจัยรองรับถึงคุณสมบัติในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย และผ่านการคัดสรรอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ชาที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

9 วิธีช่วยเสริมสร้างความจำที่ดี

1.จิบน้ำบ่อย ๆ (Drink water very often) สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมอง ก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

2. กินไขมันดี (Enjoy good Omega 3) คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วยปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที (Meditation 12 min a day) หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

4. ใส่ความตั้งใจ (Program the brain: have specific intention) การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ (Laugh and Smile) ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้น ให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อย ๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน (Learn new thing everyday) สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และ สร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress) ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

8. เขียนบันทึก Graceful Journal (Write graceful journal, good things in life every day) ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มี ครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9. ฝึกหายใจลึก ๆ (Deep breath) สมองใช้ออกซิเจน 20 .25% ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 % การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม

สวย ใส สไตล์ใหม่

ซื้อ คลอโรฟิลล์ พลัส วิตามินซี 6 กล่อง แถมฟรีชาล้างสารพิษ 1 กล่องมูลค่า 812 บาท

คลอโรฟิลล์ขายปลีก กล่องละ 600 บาท
ราคาสมาชิกเพียง 480 บาท เท่านั้น
 
 

อยากฉลาดต้องนี่เลย น้ำมันปลาโอเมก้า 3 จากบริษัททรูฯ

นำเข้าจากประเทศอเมริกา จากแหล่งปลาที่ดีที่สุดในโลก
ปลาคอด จากทะเลนอร์วิเจียน แหล่งน้ำที่ได้รับการยอมรับว่าให้กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีที่สุดในโลก
มี DHA เข้มข้น ถึง 200 มก. ต่อเม็ด มากกว่าในนมถึง 20 เท่า

คลิกที่รูปภาพข้งล่านี้ค่ะ

k.อัญฃลีรัตน์  บุญยวิตร์

       087-675-5799

u.lakshmi50@gmail.com

...................................................................................................

คลอโรฟิลล์พลัสวิตามินซี

Chlorophyll + Vitamin C

ประวัติการค้นคว้า ในปี 1961 นักวิทยาศาสตร์ ชื่อ Melvin Calvin ได้รับรางวัลโนเบล

ในการค้นคว้าความสัมพันธ์ของคลอโรฟิลล์ในใบพืช มีส่วนสำคัญในขบวนการสังเคราะห์

ในปี 1915 Dr.Richard Wilstatter ได้รับรางวัลโนเบล จากการค้นพบโครงสร้างของ

คลอโรฟิลล์ จากนั้นเพียง 15 ปี Dr.Hans Fisher ได้รับรางวัล โนเบลจากการค้นพบโครงสร้าง

ของอะตอม เม็ดเลือดแดง (Heme) มีโครงสร้างเหมือนคลอโรฟิลล์ จากงานวิจัยสรุปได้ว่า

เมื่อร่างกายได้รับคลอโรฟิลล์บางส่วนของคลอโรฟิลล์จะถูกเปลี่ยนเป็นฮีม ทำให้ร่างกายมี

ปริมาณเลือดที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เพิ่มมากขึ้น


ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์

-ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดให้กับร่างกาย

-ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาออกซิเจนเข้าสู่เซลล์

-ช่วยขจัดสารพิษในเลือด ตับ และไต

-ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

-ปรับสมดุลให้กับร่างกาย

-ให้ความสดชื่น

-ผิวพรรณสดใส

-ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

-มีความสามารถในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

-เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ประโยชน์ของวิตามินซี

- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

- เสริมระบบภูมิคุ้มกัน

- ช่วยให้ผิวพรรณสดใส

- ช่วยให้หลอดเลือดแดงมีความยืดหยุ่นตัวได้ดีขึ้น

- มีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรตีน คอลาเจน

- ป้องกันโรคโลหิตจาง

- ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง

- ป้องกันสภาวะโรคหัวใจ

- ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง

- ป้องกันต้อกระจกในผู้สูงอายุ

สนใจคลิกดูหรือสั่งได้ที่ภาพข้างล่างค่ะ

เบอร์โทรติดต่อ 

087-675-5799

K.อัญชลีรัตน์

u.lakshmi50@gmail.com


-----------------------------------------------------------------------

คลอโรฟิลล์คืออะไร ?

คลอโรฟิลล์ (อังกฤษ: Chlorophyll) เป็นสารประกอบที่พบได้ในส่วนที่มีสีเขียวของพืช โดยพบมากที่ใบ นอกจากนี้ยังพบได้ที่ลำต้น ดอก ผลและรากที่มีสีเขียว และยังพบได้ในสาหร่ายทุกชนิด นอกจากนี้ยังพบได้ในแบคทีเรียบางชนิด คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่เป็นโมเลกุลรับพลังงานจากแสง และนำพลังงานดังกล่าวไปใช้ในการสร้างพลังงานเคมีโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เพื่อสร้างสารอินทรีย์ เช่น น้ำตาล และนำไปใช้เพื่อการดำรงชีวิต  คลอโรฟิลล์ อยู่ในโครงสร้างที่เรียกว่า เยื่อหุ้มไทลาคอยล์ (Thylakoid membrane) ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มที่อยู่ภายใน คลอโรพลาสต์ (Chloroplast)

โครงสร้างทางเคมี คลอโรฟิลล์เป็นสารที่ละลายได้ดีในอะซีโตนและแอลกอฮอล์ โครงสร้างอาจแบ่งได้เป็นสองส่วน คือ ส่วนหัว และส่วนหาง โดยที่ส่วนหัวของคลอโรฟิลล์มีลักษณะเป็นวงแหวนไพรอล (pyrole ring) ที่มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบอยู่ 4 วง และมีธาตุแมกนีเซียมอยู่ตรงกลางโดยทำพันธะกับไนโตรเจน ส่วนหัวนี้มีขนาดประมาณ 1.5x1.5 อังสตรอม ส่วนหางของคลอโรฟิลล์มีลักษณะเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ 20 อะตอม มีความยาวประมาณ 2 อังสตรอม คลอโรฟิลล์ดูดกลืนแสงได้ดีที่ช่วงคลื่นของแสงสีฟ้าและสีแดง แต่ดูดกลืนช่วงแสงสีเหลืองและเขียวได้น้อย ดังนั้นเมื่อได้รับแสงจะดูดกลืนแสงสีฟ้าและสีแดงไว้ ส่วนแสงสีเขียวที่ไม่ได้ดูดกลืนจึงสะท้อนออกมา ทำให้เห็นคลอโรฟิลล์มีสีเขียว [2] ในธรรมชาติมีคลอโรฟิลล์อยู่หลายชนิดด้วยกันซึ่งแต่ล่ะชนิดมีโครงสร้างหลักที่เหมือนกันคือ วงแหวนไพรอล 4 วง แต่โซ่ข้าง (side chain) ของคลอโรฟิลล์แต่ละชนิดจะมีลักษณะที่ต่างกันออกไป เช่น คลอโรฟิลล์ เอ (chlorophyll a) และคลอโรฟิลล์ บี (chlorophyll b) มีโครงสร้างโมเลกุลที่ต่างกันเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น นั่นคือ ที่วงแหวนไพรอลวงที่สองของคลอโรฟิลล์ เอ มีโซ่ข้างเป็นหมู่เมททิล (-CH3) ส่วนของคลอโรฟิลล์ บี เป็นหมู่อัลดีไฮด์ (-CHO) ซึ่งการที่โครงสร้างที่ต่างกันนี้ก็ทำให้มีคุณสมบัติแตกต่างกันด้วยโดยเฉพาะด้านการละลายโดยที่ หมู่เมททิลของคลอโรฟิลล์ทำให้โมเลกุลมีขั้ว ดังนั้นจึงละลายได้ดีในสารละลายที่มีขั้ว เช่น เมทิลแอลกอฮอล์ ส่วนหมู่อัลดีไฮด์ซึ่งไม่มีขั้ว จึงทำให้คลอโรฟิลล์ บี ละลายได้ดีในตัวทำละลายไม่มีขั้ว เช่น ปิโตรเลี่ยมอีเธอร์ (petroleum ether) รวมทั้งคุณสมบัติการดูดกลืนแสงก็ต่างกันด้วย และทำให้คลอโรฟิลล์ทั้งสองชนิดนี้มีสีต่างกันเล็กน้อย โดยที่คลอโรฟิลล์ เอ มีสีเขียวเข้ม ส่วนคลอโรฟิลล์ บี มีสีเขียวอ่อน

Research & Study

"The German organic chemist Hans Fischer (1881-1945) was awarded the Nobel Prize in Chemistry in 1930 for his researches into the constitution of hemin and chlorophyll and especially for his synthesis of hemin."

"นักเคมีชีวะชาวเยอรมัน ด็อกเตอร์ ฮาน ฟิชเชอร์ ได้รับรางวัล โนเบิล ในปี 1930 จากการงานวิจัย ความสัมพันธ์ ระหว่าง คลอโรฟิลล์ กับเม็ดเลือด "

Hans Fischer, the son of Dr. Eugen Fischer, a manufacturer of chemicals, was born at Höchst am Main, on July 27, 1881. He entered the University of Lausanne in 1899, read chemistry and medicine, and subsequently transferred to the University of Marburg, where he graduated in chemistry in 1904. Two years later he qualified in medicine at Munich. In 1908 he graduated as a doctor of medicine at Munich. He was assistant to the chemist Emil Fischer at Berlin (1908-1910) and did some early work on bile pigments at Munich (1910-1912).

After a year as a teacher of internal medicine and three as lecturer in physiology at Munich, Fischer held the chair of medical chemistry at Innsbruck (1916-1918) and then at Vienna (1918-1921). From 1921 until his death he was professor of organic chemistry at the Technische Hochschule in Munich.

From 1911 Fischer studied the pyrrole group of the heterocyclic compounds. In 1915 he showed that the urine and feces of a case of congenital porphyria, a disease then recently discovered, contained uroporphyrin and coproporphyrin.
งานวิจัยค้นคว้าถึงคุณประโยชน์ของคลอโรฟิลล์  
ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์

- ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดให้กับร่างกาย

- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาออกซิเจนเข้าสู่เซลล์

- ช่วยขจัดสารพิษในเลือด ตับ และไต

- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด


- ปรับสมดุลให้กับร่างกาย


- ให้ความสดชื่น


- ผิวพรรณสดใส


- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น


- มีความสามารถในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย


- เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ประโยชน์ของวิตามินซี


- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ


- เสริมระบบภูมิคุ้มกัน


- ช่วยให้ผิวพรรณสดใส


- ช่วยให้หลอดเลือดแดงมีความยืดหยุ่นตัวได้ดีขึ้น


- มีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรตีน คอลาเจน


- ป้องกันโรคโลหิตจาง


- ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง


- ป้องกันสภาวะโรคหัวใจ


- ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง


- ป้องกันต้อกระจกในผู้สูงอายุ

ด้วยมิตรภาพ

อัญชลีรัตน์  บุญยวิตร์

ขอกล่าวคำขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่ควรค่าแก่การแบ่งปัน

เราขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน และยินดีที่จะร่วมกันสร้างสรรสิ่งดีๆ เพื่อเป็น
กำลังใจให้แก่กันและกันตลอดไปค่ะ
หญิงเล็ก